บริษัท ยู สปาร์ค ("บริษัท") เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของ ยู สปาร์ค ซึ่งถือเป็นบริการ หนึ่งของบริษัท ("บริการ") เมื่อท่านสมัครบัญชีใช้งานของบริษัทผ่าน ยู สปาร์ค ท่านจะถือว่าเป็น ผู้ใช้บริการของบริษัท ("ผู้ใช้บริการ") และในการให้บริการแก่ท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลที่บริษัทจะดำเนินการให้ผู้ใช้บริการในฐานะผู้ใช้บริการรับทราบ
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับการให้บริการของบริษัทเท่านั้น ไม่มีผลใช้บังคับกับแอปพลิเคชั่นและบริการหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่อาจมีการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นของบุคคลภายนอกที่บริษัทไม่มีอำนาจ ควบคุม และเป็นส่วนที่ผู้ใช้บริการต้องทำความตกลง และศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้แอปพลิเคชั่น บริการ หรือเว็บไซต์ดังกล่าวแยกต่างหาก
หากผู้ใช้บริการไม่ตกลงตามเงื่อนไขของนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือฉบับแก้ไขอื่นๆ บริษัทสงวนสิทธิที่จะห้าม หรือไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการดังกล่าวใช้บริการของบริษัท เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ มีความผลจำเป็นโดยตรงต่อการปฏิบัติตามหน้าที่ให้บริการโดยบริษัทแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งนี้การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการของบริษัทอยู่ผู้ใช้บริการ ดังกล่าว จะถือว่ายอมรับนโยบายฉบับนี้เสมอ
บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และให้สอดคล้องกับการให้บริการต่างๆของบริษัท ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ให้ผู้ใช้บริการทราบ โดยนโยบายนั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทได้ประกาศ
ในการให้บริการบริษัทจะเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากการที่ผู้ใช้บริการดำเนินการผ่านระบบการให้บริการ ดังต่อไปนี้
• ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนโดยตรง อาทิ ชื่อ อายุ สัญชาติ วันเกิด
• ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล
• ข้อมูลการชำระเงิน อาทิ รายละเอียดการชำระเงิน บัตรเครดิต และบัญชีธนาคาร
• ข้อมูลการใช้บริการ อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการดำเนินการ รวมถึงความสนใจของต่างๆของผู้ใช้บริการ
• ข้อมูลทางเทคนิคในการระบุตัวตน อาทิ หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการใช้งาน การตั้งค่าและการเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้บริการใช้ในการใช้บริการของบริษัท
• รูปภาพ
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
• บริษัทมีความจำเป็นเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการให้บริการที่กำหนดและระบุไว้สำหรับแต่ละเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท อันรวมถึงเพื่อการยืนยันตัวตนและติดตามในการทำธุรกรรมต่างๆของผู้ใช้บริการ เพื่อการตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงิน ค่าบริการเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้บริการ เป็นต้น
• บริษัทมีความจำเป็นเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อการวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้บริการ เพื่อให้สามารถเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการ ตามความสนใจของผู้ใช้บริการได้มากขึ้น หรือ เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ
• บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การติดต่อสอบถามข้อมูลติชมแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือ การส่งคำร้องต่างๆ
• บริษัทมีความจำเป็นจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และระเบียบบังคับใช้ของรัฐ เช่น การจัดทำเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้บริการยังคงเป็นผู้ใช้บริการของบริษัทอยู่ และบริษัทสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลังจากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และต่อสู้สิทธิต่างๆของบริษัท
เว้นแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทมีหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 3 ปี
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อการให้บริการตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในกรณี ดังนี้
• บริษัทอาจมีความจำเป็นเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ที่ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการให้บริการของบริษัท เช่น ที่ปรึกษา ผู้รับจ้างให้บริการ ผู้รับ จ้างขนส่ง
รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการบริการของบริษัท เช่น Google Analytics ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
• บริษัทอาจเปิดเผยด้วยการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้บริการ ได้แก่ ตั้งเซิฟเวอร์ด้วยตนเอง, Microsoft Azure, Amazon AWS, Google Cloud Platform, Huawei Cloud
• บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูล ด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิของบริษัท หรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท โดยผู้ใช้บริการในลักษณะต่างๆ
โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของ หน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้แก่หน่วยงานดังกล่าว เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีตามกฎหมาย
Cookies ที่บริษัทใช้ในการให้บริการ
Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือพฤติกรรมการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพในการให้บริการของบริษัทแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้หลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ต่างกันไป ดังที่ระบุต่อไปนี้
• Functionality Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือก หรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบแพลตฟอร์ม เพื่อการนำเสนอข้อมูลที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าต่างที่เลือกไว้
• Advertising Cookies: ใช้ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชมและรวมถึง ลักษณะการใช้ บริการของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการ และใช้เพื่อการประเมินประสิทธิผลของการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆของระบบ
• Strictly Necessary Cookies เป็นคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานเพื่อการให้บริการของบริษัท มีความจำเป็นเพื่อให้การใช้บริการโดยผู้ใช้งานสามารถทำได้ อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
แม้ว่าการใช้คุกกี้จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ และการทำงานให้บริการของบริษัท แต่หากผู้ใช้บริการต้องการผู้ใช้บริการสามารถลบการตั้งค่าคุกกี้บน Browser ของตนเองได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้บริการต้องรับทราบว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานให้บริการของบริษัทได้ในบางส่วนตามจุดประสงค์การทำงานของคุกกี้ที่ระบุไว้
คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม
บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้
บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทรับทราบ และเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้ใช้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผู้ใช้บริการ ซึ่งได้แก่สิทธิ ดังนี้
• สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
• สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติรวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
• ทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
• สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
• สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบ หรือ เมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
• สิทธิถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อขอใช้สิทธิข้างต้นได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และบริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาการ ขอใช้สิทธิให้ผู้ใช้บริการทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว
รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล
ชื่อ: บริษัท เจนซัส วิซ จำกัด
สถานที่ติดต่อ: 140/62 อาคารไอทีเอฟ ชั้น 25 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
ช้องทางการติดต่อ: 02 117 2199
อีเมล: taphatson@genxas.com
ชื่อ: นายทรงศักดิ์ จันทร์นฤกุล
สถานที่ติดต่อ: 140/62 อาคารไอทีเอฟ ชั้น 25 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
ช่องทางการติดต่อ: 02 117 2199
อีเมล: Songsak@genxas.com